Blog

POV ใน TikTok คืออะไร? สร้างประสบการณ์เสมือนจริงให้ธุรกิจได้อย่างไร?

• 22 สิงหาคม 2024

Share on

เคยไหม ดู TikTok 10 คลิป เจอคลิปที่ติด #Pov ไปแล้ว 8 คลิป?

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เล่น TikTok บ่อยๆ ช่วงนี้คงจะเห็นคอนเทนต์ที่ติด #Pov ในแคปชัน รวมถึงจั่วหัวในคลิปด้วยคำว่า Pov กันมาบ้างแล้ว บางคนอาจจะเคยรู้มาบ้างว่า Pov นั้นย่อมาจากคำว่า ‘Point-of-View’ หรือมุมมองของคนในคลิป

แต่รู้ไหมว่า Pov คืออะไร? แล้วทำไมถึงฮิตใช้คำนี้กันใน TikTok? บทความนี้จะพามาหาคำตอบ พร้อมบอกวิธีปรับใช้กลยุทธ์ Pov ใน TikTok กับธุรกิจของคุณ!

ยาวไป อยากเลือกอ่าน? [+]

Pov คืออะไร?

Pov ย่อมาจากคำว่า Point of View ซึ่งหมายถึงมุมมอง หรือเรื่องสมมติที่ถูกแต่งขึ้นมา โดยปกติเรามักจะเห็นการใช้คำว่า Pov กันในโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok รวมถึงเริ่มมีการแพร่หลายไปยังแพลตฟอร์มวิดีโออื่นๆ อย่าง YouTube เทรนด์ Pov จะเป็นการถ่ายวิดีโอบทบาทสมมติที่ครีเอเตอร์สามารถสวมบทบาทเป็นอะไรก็ได้ โดยมักจะถ่ายวิดีโอสั้นๆ ออกมาในมุมมองของเหล่าครีเอเตอร์ผู้สร้างสรรค์เพื่อให้ผู้ที่รับชมได้เห็นมุมมองเดียวกันกับครีเอเตอร์ในวิดีโอนั่นเอง การถ่ายวิดีโอในรูปแบบของ Pov ไม่ได้ทำเพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่เริ่มทำการตลาดผ่านเทรนด์ Pov เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในเทรนด์นี้อีกด้วย

Pov มีกี่ประเภท?

มุมมองบุคคลที่ 1

Pov ประเภทนี้มักจะเป็นประเภทที่เราเห็นกันบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของครีเอเตอร์ที่อยู่ในวิดีโอ โดยเราจะไม่เห็นครีเอเตอร์ในวิดีโอแต่จะเห็นภาพและบุคคลต่างๆ ในมุมมองเดียวกับครีเอเตอร์ทำให้รู้สึกมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสามารถเข้าถึงความรู้สึก อารมณ์และจิตใจของครีเอเตอร์ได้มากกว่ามุมมองอื่นๆ

มุมมองบุคคลที่ 2

มุมมองของบุคคลที่ 2 เป็นมุมมองที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันใน TikTok เท่าไหร่ แม้จะมีความคล้ายคลึงกับมุมมองบุคคลที่ 1 แต่ก็มีความแตกต่างกันตรงที่มุมมองของบุคคลที่ 1 คือการที่ตัวเราเองมองเห็นภาพในมุมครีเอเตอร์ ส่วนมุมมองบุคคลที่ 2 คือการที่เราถูกคนที่อยู่ในวิดีโอสื่อสารด้วย

มุมมองบุคคลที่ 3

มุมมองของบุคคลที่ 3 เป็นการเล่าเรื่องที่ผู้รับชมจะสามารถมองเห็นทั้งองค์ประกอบและบุคคล สามารถรับรู้ความรู้สึกและความคิดของทุกคนในฉากนั้นๆ แม้ว่าตัวละครจะไม่รู้ หรืออาจเปรียบเสมือนเรากำลังเดินตามคนที่มีบทบาทในคลิปอยู่

ทำไม Pov ถึงฮิตใน TikTok?

ผู้ริเริ่มเทรนด์นี้มีมาจากผู้ใช้งาน TikTok @amyy.ang ที่กลายเป็นที่รู้จักด้วยการแสดง Pov ฉากละครตลกๆ และลิปซิงค์ หลังจากนั้นไม่นาน เทรนด์ POV ได้รับความสนใจมากขึ้น และมีคนดังมากมายไม่ว่าจะเป็น Adelaine Morin, Loren Gray และ Jordyn Jones ที่ได้เข้ามาร่วมเทรนด์นี้ด้วย ทำให้ปัจจุบันแฮชแท็ก #pov ถูกใช้งานมากกว่า 57.7 ล้านโพสต์

สิ่งหนึ่งที่ทำให้เทรนด์นี้กลายเป็นที่นิยมมากใน TikTok เพราะ Pov ช่วยสร้างประสบการณ์เสมือนจริงให้กับผู้ที่รับชมวิดีโอ พวกเขาจึงรู้สึกว่าตัวเองกำลังมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ต่างๆ เหมือนกับเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นกับพวกเขาขึ้นมาจริงๆ ด้วยความอินนี้ทำให้ผู้ที่ชมวิดีโอหลายคนต่างก็พากันแสดงความคิดเห็นผ่านใต้คอมเมนต์และบางคนก็ถึงกับทำคลิปเพื่อลิปซิงค์เสียงของวิดีโอต้นฉบับเพื่อแสดงถึงจุดยืนและมุมมองของตนเองที่มีต่อเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิด Community สำหรับคนที่มีความสนใจคล้ายๆ กันใน TikTok

Pov มีประโยชน์อย่างไร?

1. สร้างประสบการณ์เสมือนจริง

Pov ช่วยสร้างประสบการณ์เสมือนจริงให้ผู้ชม โดยที่พวกเขาสามารถได้รับประสบการณ์จากมุมมองของบุคคลหรือตัวละครในเรื่องราวนั้นๆ ทำให้รู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวและได้รับสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ อย่างจริงจัง เช่น ได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ที่ผู้ชมไม่เคยได้ไปอย่างสมจริงผ่านการรับชมวิดีโอ Pov

2. เพิ่มการเชื่อมต่อกับผู้ชม

การทำวิดีโอ Pov ยังสามารถเชื่อมต่อกับผู้ชมได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันประสบการณ์และความรู้ที่มีประโยชน์กับผู้ชม โดยการเล่าเรื่องราวจริงๆ หรือการให้คำแนะนำและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าได้รับความรู้และประโยชน์จากการติดตาม เช่น การสอนวิธีการป้องกันตัวจากเหตุการณ์สมมติต่างๆ อย่างการถูกลวนลาม หรือถูกลักพาตัว

3. สร้าง Community ที่สนใจเรื่องคล้ายๆ กัน

Pov ยังสามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชมโดยการแสดงให้เห็นถึงความรู้สึก ความคิด หรือประสบการณ์ที่สามารถเข้าถึงผู้ชมได้ง่ายเพื่อทำให้เชื่อมโยงกันได้ง่ายขึ้นทำให้เกิด community ของคนที่มีความสนใจในเรื่องที่คล้ายๆ กัน และเกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เช่น Community ของคนที่มีพี่น้องที่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นไปนทางเดียวกันว่าลูกคนโตมักจะเป็นที่พึ่งของน้องๆ เปรียบเสมือนผู้ปกครองคนที่2 ลูกคนกลางมักจะถูกลืม และลูกคนเล็กที่มักจะถูกสปอยมากที่สุดจากคนในครอบครัว

4. แสดงจุดยืนและความเชื่อที่แตกต่าง

Pov ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถแสดงถึงจุดยืนและความเชื่อที่แตกต่างกันได้อย่างชัดเจน ช่วยในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่สร้างสรรค์และสร้างความเข้าใจและการยอมรับความหลากหลายใน Community ได้ เช่น กระแสเกี่ยวกับการวางตัวของเพื่อนแฟนที่กลายเป็นประเด็นดังในโลกของ TikTok โดยหลายคนเข้ามาแชร์ประสบการณ์ที่ไม่ดีจากการที่เพื่อนผู้หญิงของแฟนวางตัวได้ไม่ดีพอทำให้เกิดปัญหาตามมาในความสัมพันธ์

6 ขั้นตอนการทำ Pov ให้ปัง

1. กำหนดเป้าหมาย

ขั้นตอนแรกในการเริ่มทำ Pov คือการรู้เป้าหมายที่แน่ชัดของธุรกิจว่าต้องการอะไร เนื่องจากการมีเป้าหมายที่แตกต่างกันย่อมต้องใช้คอนเทนต์ Pov ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ การสร้างการรับรู้ การสร้างการมีส่วนร่วม การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้า หรือการสร้างยอดขาย

2. รู้ว่าใครคือกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากจะรู้แล้วว่าเป้าหมายของธุรกิจคืออะไร สิ่งต่อมาที่ต้องทราบคือกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคือใคร การรู้กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่ถูกกลุ่ม อีกทั้งยังช่วยประหยัดงบประมาณในการทำการตลาดแบบหว่านแหและไม่ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากเท่ากับการทำการตลาดแบบเจาะกลุ่ม

3. เริ่มระดมไอเดีย

หลังจากที่รู้ทั้งเป้าหมายและกลุ่มเป้าหมายแล้ว ธุรกิจจะเริ่มเข้าใจถึงสถานการณ์ของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหา หรือสิ่งที่พวกเขาสนใจ ถัดมาคือการเริ่มระดมไอเดียเกี่ยวกับคอนเทนต์เพื่อเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายให้เข้ากับธุรกิจได้ดีขึ้นโดยอาจจะเริ่มจากการเน้นทำคอนเทนต์เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขามองหาบนโซเชียลมีเดีย 

4.วิเคราะห์คู่แข่ง

ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงในอุตสาหกรรมต่างๆ สิ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเป็นผู้นำในตลาดได้คือการทำความรู้จักจุดอ่อนและจุดแข็งของคู่แข่ง วิเคราะห์ลักษณะของคอนเทนต์คู่แข่งเพื่อหาช่องทางในการสร้างความโดดเด่นให้กับธุรกิจของเรา ดังคำกล่าวที่ว่ารู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

5. สร้างคอนเทนต์ที่ใช่

เมื่อเราได้ทั้งเป้าหมายที่ชัดเจน รู้จักกลุ่มเป้าหมายและคู่แข่งเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสำคัญที่สุดคือการลงมือทำ เพราะถ้ามีไอเดีย มีเป้าหมาย แต่ไม่ลงมือทำก็ยากที่จะทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ อาจเริ่มต้นโดยทำคอนเทนต์ที่กลุ่มเป้าหมายกำลังให้ความสนใจหรือคอนเทนต์ที่กำลังเป็นกระแสในโลกออนไลน์ตามช่วงเทศกาลหรือประเพณีต่างๆ เช่น ช่วงวันหยุดสงกรานต์ ช่วงวันหยุดปีใหม่ หรือช่วงวันหยุดคริสต์มาส

6. ติดตามผลลัพธ์

แม้เราจะลงมือทำคอนเทนต์ที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายแล้วแต่ก็ยังคงต้องหมั่นติดตามผลลัพธ์ของแต่ละคอนเทนต์และวิเคราะห์จุดที่ควรพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดและตรงกลุ่มมากยิ่งขึ้น หมั่นรักษาประสิทธิภาพไว้อย่างสม่ำเสมอ

4 ไอเดียประยุกต์ใช้ Pov ในธุรกิจของคุณ

1. สอดคล้องกับเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของธุรกิจ

การทำ Pov ที่มีคอนเทนต์สอดคล้องกับเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของธุรกิจจะช่วยสร้างภาพจำและสร้างการจดจำที่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมาย การทำคอนเทนต์ประเภทนี้จะช่วยเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายที่ให้ความสำคัญในเรื่องที่คล้ายกันกับธุรกิจและมองหาธุรกิจที่เน้นคุณค่าที่เหมือนกัน เช่น Pov สิทธิประโยชน์ สวัสดิการ หรือสไตล์การทำงานของบริษัทที่กำลังมองหาพนักงานในตำแหน่งต่างๆ

2. สอดคล้องกับอุตสาหกรรม

Pov ไม่ได้เหมาะแค่กับการทำเพื่อความสนุกสนานและสร้างความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมอาหาร เทคโนโลยี แฟชั่น และอื่นๆ ซึ่งการจะสร้าง Pov ให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมของตนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความสามารถและเป็นไอเดียที่ดีสำหรับธุรกิจในการพูดถึงธุรกิจของตนเองในด้านต่างๆ เช่น ร้านอาหารอาจทำ Pov ตลกๆ ที่เกี่ยวกับการทำอาหารเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายด้วยคอนเทนต์ที่ตลก มีสีสัน 

3. สอดคล้องกับจุดอ่อนของลูกค้า

การทำ Pov ด้วยการนำเสนอจุดอ่อนหรือปัญหาของลูกค้าในชีวิตประจำวัน เป็นอีกไอเดียในการทำ Pov ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในวิดีโอแบบสั้น การทำคอนเทนต์ที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ตั้งแต่ใน 5 วินาทีแรกมีแนวโน้มที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายดูวิดีโอได้จนจบ ธุรกิจอาจนำจุดอ่อนของลูกค้าที่ได้มาจากการสำรวจหรือการสอบถามลูกค้าโดยตรงมาใช้ทำคอนเทนต์ Pov ที่เหมาะกับลูกค้า เช่น Ingu ใช้ Pov ในการอธิบายถึงสาเหตุที่คนเป็นสิวใช้สกินแคร์รักษาสิวเท่าไหร่ก็ไม่หายเพราะมีผิวหน้าที่ไม่แข็งแรงซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนเจอ พร้อมบอกวิธีแก้ไขปัญหา

4. เสนอจุดเด่นของสินค้า

อีกไอเดียที่จะช่วยตอกย้ำว่าสินค้าและบริการของธุรกิจตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายคือการทำ Pov บอกวิธีการใช้งานของสินค้าและบริการ หรือสร้างคอนเทนต์เน้นไปที่คุณสมบัติ ประโยชน์ และวิธีการใช้งานของสินค้าและบริการนั้นโดยตรง เช่น ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นสอนวิธีการ Mix and Match เสื้อผ้าแฟชั่นในรูปแบบต่างๆ 

สรุป

Pov หรือ Point of View ที่เราเห็นกันบ่อยๆ ตามสื่อโซเชียลมีเดียไม่ใช่เพียงแค่เทรนด์ทั่วไปที่ให้แค่เพียงความบันเทิงและความสนุกสนามเมื่อได้ชม แต่กลยุทธ์นี้สามารถช่วยให้แบรนด์ทำการตลาดได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นผ่านการทำวิดีโอสั้นที่ดึงดูดลูกค้าที่กำลังมองหาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ในขณะที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดียไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจและเหมาะกับธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องการสร้างความบันเทิงให้กับลูกค้าพร้อมทั้งทำการโปรโมตสินค้าหรือบริการไปด้วย

ตาคุณแล้ว

อ่านจบแล้วเพื่อนๆ อย่าลืมนำกลยุทธ์ Pov ไปปรับใช้กันในธุรกิจของตัวเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่กันนะ ถ้าใครมีตัวอย่าง Pov ของธุรกิจที่น่าสนใจสามารถแชร์กันได้ในคอมเมนต์เลย!

Writer

Pisinee T.

Freelance Digital Content Writer/ Content Creator✍?

More From Me